ทนายเกิดผล ตอบชัด แม่แตงโมเรียกเงินเพิ่ม 40 ล้านได้ไหม หลังยื่นเรียกค่าเสียหายเพิ่ม จากจำเลยที่ 3-6 ยกเว้น ปอ และ โรเบิร์ต จากกรณีที่แม่แตงโม หรือ ภนิดา ศิระยุทธโยธิน ยื่นคำร้องเรียกค่าเสียหาย 4 จำเลย 40 ล้านบาท ต่อจำเลยที่ 3-6 หรือยกเว้น ปอ-โรเบิร์ต แม้จะเซ็นยินยอมข้อตกลงไปแล้ว จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ดังที่รายงานไปก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุด ทนายเกิดผล เกิดแก้ว โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กแสดงความเห็นว่า
แม่แตงโมสามารถเรียกค่าเสียหายเพิ่มได้หรือไม่? โดยทนายเกิดผล ระบุว่า “การที่คุณแม๊ ทำสัญญาประนีประนอมยอมความ กับจำเลยทั้ง 6 โดยมีจำเลยที่ 1 และที่ 2 ยอมชดใช้ค่าสิยไหมทดแทน แก่คุณแม๊รวมเป็นเงิน 9,200,000 บาท จนมีการตกลง ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันกับจำเลยทั้ง 6 ในศาลไปแล้ว
วันนี้คุณแม๊ กลับมายื่นคำร้อง ว่าประสงค์จะเรียกร้องเงินจำนวน 40.8 ล้านบาท จาก จำเลยที่ 3 – 6 ภายหลังที่ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับจำเลยทั้ง 6 ไปแล้ว
หนี้เดิม ที่คุณแม่เรียกร้อง เป็นค่าขาดไร้อุปการะ กรณี มีคนทำให้แตงโมตาย ถ้าแตงโมไม่ตาย แม่มีสิทธิได้รับเงินค่าเลี้ยงดู (ค่าน้ำนมของแม๊) จากแตงโม 50,000,000 บาท พะนะ
ฉะนั้น เมื่อแตงโมตายแล้ว คนที่ทำให้แตงโมตาย ต้องมาจ่ายค่าน้ำนม ของแม๊แทนแตงโม ร่วมกัน 50 ล้านบาท แต่ ลูกชายคนใหม่ของแม๊ 2 คน จ่ายมาแล้วบางส่วน แม๊จึงให้อภัย 100% คนอื่นๆ แม่ไม่ให้อภัย จนกว่าจะได้เงิน แม๊ทำสัญญาประนีประนอมยอมความไปแล้ว ค่าสินไหมที่แม๊เรียกน้อง เกิดจากมูลกนีเดิมที่้เรียกว่า #ละเมิด มีคนละเมิดต่อแตงโม แม่จึงมีสิทธิเรียกร้องได้
แต่…ๆๆๆ ต่อมา แม๊ มาทำสัญญาประนีประนอมยอมยอมในศาล ทำให้เกิดหนี้ หรือสิทธิขึ้นใหม่ คือ สิทธิหรือหนี้ ตาม #สัญญาประนีประนอมยอมความ และ ทำให้เดิม (หนี้ละเมิด) ระงับไป
(มาตรา 850 อันว่าประนีประนอมยอมความนั้น คือสัญญาซึ่งผู้เป็นคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย #ระงับข้อพิพาทอันใดอันหนึ่งซึ่งมีอยู่หรือจะมีขึ้นนั้นให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กัน) เมื่อสัญญาประนีประนอมเกิดขึ้น หนี้เดิมย่อมระงับไปตามกฎหมาย แม้จำเลยที่ 3 -6 จะไม่จ่าย แม๊ ก็ต้องบังคับตามข้อตกลงที่ 9 ล้าน แม๊ จะกลับไปกลับมา เอา 50 ล้านที่แม่โหยหามาเรียกร้องอีกไม่ได้ ครับแม๊..”
เพจดังอัปเดตชีวิต 1 ปีให้หลัง ‘น้องอุ้ม’ พยาบาลอุ้มผาง ล่าสุดร่างกายแข็งแรง
เพจเฟซบุ๊กอัปเดตชีวิต 1 ปีให้หลัง น้องอุ้ม พยาบาลอุ้มผาง ที่รถพยาบาลถูกชนจนเจ็บสาหัส ว่าล่าสุดอาการแข็งแรง ขอบคุณทุกเงินบริจาคและกำลังใจ เพจเฟซบุ๊ก เรื่องเล่าหมอชายแดน ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กอัปเดตเรื่องราวของ น้องอุ้ม พยาบาล รพ.อุ้มผาง ที่รักษาตัวที่โรงพยาบาลราชวิถี หลังได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุ รถพยาบาลฉุกเฉินนำส่งผู้ป่วย ชนกับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ บนถนนสายแม่สอด-อุ้มผาง ตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยเล่าถึงชีวิตใหม่ของเธอตลอดปีที่ผ่านมา
ทางเพจเล่าถึง น้องอุ้ม ว่า “ย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่น้องอุ้มพยาบาลโรงพยาบาลอุ้มผางประสบอุบัติเหตุในการปฏิบัติหน้าที่รีเฟอร์ส่งผู้ป่วยบนถนน สายแม่สอด-อุ้มผาง ตอนนี้ก็ครบ 1 ปีแล้วที่น้องอุ้มได้รับการผ่าตัดและฟื้นฟู โดยรักษาที่โรงพยาบาลแม่สอดในช่วงแรกหลังจากที่อาการทรงตัวได้ย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลราชวิถี โดยความช่วยเหลือจากกรมการแพทย์ (โดยเฉพาะท่านรองอธิบดี นพ.ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่สอด ท่านช่วยเหลือประสานงานให้โดยตลอด) และสำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุขที่เป็นต้นสังกัด ทางสำนักพระราชวังที่รับน้องอุ้มเป็นผู้ป่วยในพระราชานุเคราะห์ พระราชทานความช่วยเหลือกับน้องอุ้มและครอบครัว
ที่จะลืมไม่ได้เลยคือ ท่านผู้อำนวยการ คณะแพทย์ พยาบาล ทีมกายภาพบำบัด และทุกหน่วยงานของโรงพยาบาลราชวิถีที่ดูแลน้องอุ้มเป็นอย่างดี ตอนนี้น้องอุ้มถอดท่อที่คอ (Tracheostomy) ได้แล้วสามารถหายใจได้เองเป็นปกติ ได้รับการใส่เครื่องควบคุมการเต้นของหัวใจเนื่องจากหัวใจเต้นช้าอันเนื่องมาจากความผิดปกติของสมอง กินอาหารทางสายยางอยู่ ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงใบหน้าสวยงามแบบในรูปนี้เลย สามารถขยับร่างกายด้านขวาได้ ทำตามคำสั่งง่ายๆได้เช่น ยิ้ม ชูสองนิ้ว นั่งได้และกำลังฝึกยืน นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากเพราะในวันนั้นพวกเราถอดใจคิดว่าน้องอุ้มมีโอกาสเสียชีวิตสูงมากและมากที่สุดอาจเป็นได้เพียงเจ้าหญิงนิทรา
แม้ว่าจะมีความโชคร้ายเกิดขึ้น ยังมีความโชคดีที่ได้รับความช่วยเหลือจากทุกท่านทั้งเรื่องการรักษาและร่วมบริจาคทรัพย์ช่วยเหลือผ่านบัญชีธนาคารกลุ่มการพยาบาลโรงพยาบาลอุ้มผาง โดยตั้งเป็นกองทุนใช้ชื่อว่า “กองทุนพี่ช่วยน้อง” มีการแต่งตั้งกรรมการ ได้แก่ หัวหน้าพยาบาล หัวหน้าฝ่ายต่างๆ และมีบิดา มารดาร่วมเป็นกรรมการ มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการดูแลระยะยาวของ นส.ปุณยวีย์ ศรีดวงแปง ตั้งแต่เปิดรับเงินช่วยเหลือ จนถึงวันที่ 28 ก.พ. 2565 เป็นเงินจำนวน 1,631,587.81 บาท เงินในส่วนนี้ได้ใช้จ่ายสำหรับการดูแลรักษา ค่าเดินทางและค่าที่พักของครอบครัวในการไปเฝ้าไข้ และไว้ใช้จ่ายระยะยาว ทางโรงพยาบาลอุ้มผางโดยท่านผอ.นพ.วรวิทย์ก็ได้เตรียมทำห้องเพื่อดูแลน้องอุ้มหากเดินทางกลับภูมิลำเนาในอนาคตค่ะ มาร่วมเป็นกำลังใจให้น้องอุ้มกันนะคะ
จึงขออัพเดตเรื่องราวการต่อสู้ของน้องอุ้มตลอด 1 ปีที่ผ่านมาเพื่อให้ทุกท่านได้ทราบความเคลื่อนไหว หากน้องพร้อมเมื่อไหร่คงจะได้มาพบปะทุกท่านด้วยตัวเองเพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยท่านอื่นและครอบครัวที่กำลังท้อแท้เกี่ยวกับการเจ็บป่วยได้มีแรงสู้ต่อเหมือนน้องอุ้มและครอบครัว ที่สู้กันสุดๆจนมีวันนี้วันที่ดีกว่าเมื่อวานค่ะ”
Credit : ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ